ที่มาของทริปนี้เกิดความอยากไปหาสถานที่เงียบสงบ ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สัมผัสกับธรรมชาติวิถีชีวิตชุมชน เราตั้งโจทย์ของพวกเราคือ “โฮมสเตย์” “ไม่ไกลจากภูเก็ต” “ธรรมชาติ” “ไม่แพง” เราก็เริ่มแสวงหาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ตจนมาได้คำตอบที่ตอบโจทย์ของพวกเราก็คือ “โฮมสเตย์ บ้านไม้ชายคลอง” อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร
สำหรับ“โฮมสเตย์ บ้านไม้ชายคลอง” ตั้งอยู่ที่ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตทำการประมง โดยได้มาการรวมกลุ่มเพื่ออนุรักษ์วิถีชีวิตพื้นบ้านของชุมชนโดยได้ทำเป็นเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน หรือ โฮมสเตย์ โดยมีการจัดการท่องเที่ยวแบบเชิงนิเวศมีกิจกรรมหลายอย่างเช่น ล่องเรือชมป่าโกงกางดูวิถีชีวิตชาวประมง สาธิตการเลี้ยงผึ้ง ขึ้นจุดชมวิวเขาดินสอ กลางคืนออกเรือตกหมึก สำหรับค่าใช้จ่ายในการที่มาพัก โฮมสเตย์ บ้านไม้ชายคลองแห่งนี้เขาคิดต่อคนต่อคืนเพียง 600บาท ที่พักพร้อมอาหารครบมื้อถือว่าราคาไม่แพงเลยทีเดียว ถ้าต้องการอาหารแบบ Seafood ก็เพิ่มอีกหัวละ 100 บาท ถ้าต้องการออกเรือไปตกหมึกค่าเรือลำละ 2,500 บาท สำหรับใครสนใจลองโทรติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 080-779 1650 หรือ 095-793 1957 ติดต่อพี่สมโชค หรือเข้าไปดูใน facebook ที่ https://www.facebook.com/homestaybangson
การเดินทางของพวกเราเริ่มจากภูเก็ตขับรถจากภูเก็ตไปชุมพรระยะทางประมาณเกือบ 400 กิโลใช้เวลาเดินทางประมาณ 4ชั่วโมงกว่าๆระหว่างก่อนถึง อำเภอปะทิว เราได้แวะหาดทรายรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของจังหวัดชุมพร แวะทานอาหารที่ร้านลุย เขาแนะนำว่าเป็นร้านอร่อยของชุมพรเลยต้องขอลองดู
การเดินทาง จากตัวเมืองชุมพร มุ่งหน้ามาทางหาดทรายรี ไปทางศาลกรมทางหลวงชุมพร เจอสามแยกหอนาฬิกา เลี้ยวขวาตรงไปจะเห็นสวนอาหารลุย
รสชาติอาหารของร้านรับรองว่าถูกปากแน่นอน อาหารแนะนำก็จะได้มี หมึกผัดไข่หวาน, ใบเหลียงผัดไข่, ปลาจาระเม็ดทอดกระเทียม
สำหรับโฮมสเตย์ บ้านไม้ชายคลอง ตั้งอยู่ ตำบลบางสน อำเภอปะทิว จ.ชุมพร จะเป็นที่ตั้งของศูนย์ถ่ายทอดทางวิชาการของตำบลบางสน เป็นสถานที่ให้ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับการทำการเกษตรโดยจะมีคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆมาความรู้แต่ชุมชน
บรรยากาศรอบๆของ บ้านไม้ชายคลอง
พี่สมโชค คนนี้เป็นประธานกลุ่มท่องเที่ยวและเป็นคนดูแลพวกเราและพาเราเที่ยวตลอดทั้งทริป ถ้าใครสนใจสามารถโทรติดต่อพี่สมโชคได้ที่เบอร์ 080-7791650, 095-7931957
บ้านไม้ชายคลองจะตั้งอยู่ริมคลองแม่น้ำปากคลองบางสน ฝั่งตรงข้ามจะเป็นป่าโกงกาง ที่พักจะมีลานกว้างสามารถทำกิจกรรมได้
สำหรับที่นี่ก็จะมีบ้านเป็นหลังอยู่ติดริมน้ำมีที่นอนสบายที่นอนก็เป็นแบบสไตล์โฮมสเตย์ไม่หรูหรา
ห้องน้ำก็จะเป็นห้องน้ำรวมมีหลายห้องด้วยกัน
สำหรับกิจกรรมของที่นี่ก็สามารถพายเรือคายัคชมธรรมชาติวิถีชีวิตของชาวบ้านแถวนั้นได้เลย
วันนี้อาหารเย็นของพวกเราจะทานกันบนแพไม้ไผ่โดยใช้เรือลากล่องแพไม้ไผ่ไปตามปากน้ำบางสน ทานอาหารเย็นพร้อมชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง สำหรับใครที่สนใจที่จะทานอาหารบนแพไม้ไผ่จะเสียค่าใช้จ่าย 1,000บาทต่อแพไม่รวมอาหาร
ชมวีดีโอ บรรยากาศล่องแพไม้ไผ่ทานอาหารเย็นของพวกเรา
อาหารเย็นของพวกเราจัดเต็ม กุ้ง หอย ปู ปลา กินกันจนอิ่มท้องเลย
บรรยากาศยามเช้าของที่นี่ดีจริงๆตื่นขึ้นมาก็ได้พบกับธรรมชาติของสองฝั่งคลอง
พวกเราก็เริ่มออกสำรวจไปพบปะวิถีชีวิตของชาวบางสนกันคนที่นี่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอย่างมีความสุข
ใกล้ที่พักเดินไม่ไกลก็จะเจอท่าเรือที่เรือชาวบ้านที่ออกไปหาปลาหมึกก็จะมีพ่อค้ามาซื้อปลาหมึกไปขาย
ปลาหมึกของที่นี่สดมากๆและจับได้เป็นจำนวนมาก
หลังจากเราทานอาหารเช้าเสร็จพี่สมโชคพาพวกเราไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยว ชมวิถีชีวิตของคนอำเภอปะทิว พาไปชมสาธิตการเลี้ยงผึ้งแบบธรรมชาติและวิธีการที่จะได้มาซึ่งน้ำผึ้งแท้ 100%
พี่สมโชคพาเรามายังวัดแหลมยาง เป็นวัดที่ชาวบ้านแถวนี้ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากและเป็นที่ตั้งศพของหลวงปู่เขียน สุทธลีโล เจ้าอาวาสวัดแหลมยางท่านได้มรณภาพหลายปีแล้วโดยที่ร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย โดยร่างของท่านถูกบรรจุไว้ในโลงแก้วและมีเส้นผมงอกออกมาในแต่ละปีด้วย พอถึงช่วงวันสงกรานต์ของทุกปีชาวบ้านก็จะมารดน้ำแต่ตัดเส้นผมให้ทุกปี
สถานที่ต่อไปของพวกเราก็คือ “จุดชมวิวเขาดินสอ” เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของ อำเภอประทิว อีกทั้งเป็นสถานที่ดูเหยี่ยวอพยพในแต่ละปีจะมีเหยี่ยวอพยพจำนวนมากมา ณ.ที่แห่งนี้ จนมีการจัดเทศกาลดูเหยี่ยวอพยพขึ้นทุกปีประมาณเดือนตุลาคม
หลังจากพวกเราเหนื่อยมากตั้งแต่เช้าเรากลับมายังที่พักเพื่อมาทานอาหารเที่ยงพี่สมโชคจัดอาหารเที่ยงแบบเรียบง่ายถูกใจพวกเราจริงๆ
วัดถ้ำเขาพลูเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มาอำเภอประทิวต้องแวะมาเพราะเป็นสถานที่อนุรักษ์“ค่างแว่นถิ่นใต้” ค่างแว่นจะอาศัยอยู่ในป่าบริเวณวัดถ้ำเขาพลู ค่างแว่นของที่นี่จะมีหลายฝูงและไม่กลัวคน
วันที่เราไปโชคดีมากได้เห็นลูกค่างแว่นไม่น่าเชื่อว่าลูกค่างแว่นจะตัวสีเหลืองน่ารักมาก
มาถึงกิจกรรมสุดท้ายของพวกเราสำหรับทริปนี้แล้วและเป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยก็คือ “ออกเรือตกหมึก” สำหรับใครที่จะออกไปตกหมึกมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเรือลำละ 2,500บาท สำหรับออกไปตกหมึกได้ทั้งคืนพร้อมอุปกรณ์ตกหมึก เรือที่พวกเราไปก็คือเรือประมงชาวบ้านที่ออกจะหาหมึกอยู่เป็นประจำ คืนนั้นพวกเราตกหมึกได้พอสมควรเลยที่เดียวสนุกสนานกันมากๆแถมยังได้ชิมปลาหมึกสดๆที่เพิ่งตกมาได้เนื้อหวานมากๆ
ชมวีดีโอบรรยากาศที่พวกเราไปตกหมึกกัน
สำหรับที่นี่แล้วเหมาะสำหรับคนที่อยากจะมาหาธรรมชาติใช้ชีวิตเป็นเรียบง่าย เดินช้าๆ กินอาหารพื้นบ้านที่ราคาไม่แพง ลองออกมาท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ดูบ้างผมว่ามันก็ได้รสชาติของชีวิตอีกแบบหนึ่งเหมือนกันน่ะครับ
หมวดหมู่:ท่องเที่ยวทั่วไทย, เที่ยวชุมพร